บุหรี่ไฟฟ้า เรื่องไม่ปกติในสังคมของวัยรุ่น

บุหรี่ไฟฟ้า เรื่องไม่ปกติในสังคมของวัยรุ่น

บุหรี่ไฟฟ้า เป็นวิกฤตสุขภาวะของวัยรุ่นไทย คือ ภัยร้ายตัวใหม่ที่ผู้ใหญ่จะมองข้ามไม่ได้อีกต่อไป เพราะนอกจากส่งผลโดยตรงต่อสมอง และระบบประสาท ยังมีข้อมูลที่น่าตกใจอีกว่า เด็กอายุ 10-19 ปีที่สูบบุหรี่ไฟฟ้ากว่าครึ่ง หรือ 53% มีภาวะเสี่ยงโรคซึมเศร้า ปัจจุบัน พอตใช้แล้วทิ้ง กำลังมีพัฒนาการที่ก้าวล้ำไปอย่างรวดเร็วกว่าที่คิด ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบผลิตภัณฑ์ให้ดูทันสมัย รูปลักษณ์บุหรี่ไฟฟ้าจะคล้ายคลึงของใช้ประจำวันมากขึ้น มีรสชาติมากเกือบ 20,000 ชนิด ส่วนใหญ่เป็นรสขนมหวาน ลูกอม หมากฝรั่ง ผลไม้ น้ำอัดลม ชาเขียว นมเปรี้ยว ที่ล้วนเป็นรสชาติที่เด็กและวัยรุ่นชื่นชอบและคุ้นเคย ด้วยกลเกมการตลาดของบุหรี่ไฟฟ้า ยังทำให้เกิดความเข้าใจผิด ๆ ว่า สูบแล้วไม่เป็นอันตราย จึงไม่แปลก หากจะมีเด็กหลายคนที่หลงกลสีสันและรสชาติบุหรี่ไฟฟ้าเหล่านี้ จนกลายเป็นนักสูบหน้าใหม่มากขึ้น ความน่ากลัวดังกล่าว นำสู่การจัดเสวนาวิชาการ เรื่อง บุหรี่ไฟฟ้า วิกฤติสุขภาวะวัยรุ่นไทย ของเครือข่ายควบคุมยาสูบในประเทศไทย สนับสนุนโดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ

เป้าหมายของบุหรี่ไฟฟ้าคือเด็กและเยาวชน

ในปัจจุบันสถานการณ์การระบาดของบุหรี่ไฟฟ้า ในกลุ่มวัยรุ่นที่กำลังเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มนักสูบหน้าใหม่และวัยรุ่นหญิงที่เริ่มเข้ามาสูบบุหรี่ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น บุหรี่ไฟฟ้าจึงถือเป็นภัยร้ายตัวใหม่ในวัยรุ่น เพราะทำให้วัยรุ่นที่ไม่เคยนิยมสูบบุหรี่มาก่อน เช่น ผู้หญิง เข้ามาสนใจสูบบุหรี่ไฟฟ้าจนสุดท้ายนำไปสู่การเสพติด สิ่งเสพติดอื่น ๆ เนื่องจากบุหรี่ไฟฟ้าเป็นหนึ่งในสารเสพติดอันตรายแนวราบ หากเข้าถึงแล้วก็จะขยายไปยังสารเสพติดตัวอื่น ๆ ได้ง่าย สิ่งที่หนักใจในตอนนี้คือ การแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าบุกไปถึงกลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีแล้ว  จะเห็นได้จากข่าวพบเด็กนักเรียนประถมศึกษาชั้นปีที่ 5 ของโรงเรียนแห่งหนึ่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ลงขันกันซื้อบุหรี่ไฟฟ้ามาแบ่งกันสูบถึง 20 คน ด้วยความอยากรู้อยากลอง 

บุหรี่ไฟฟ้ากลายเป็นเครื่องประดับในร่างกาย

บุหรี่ไฟฟ้า เรื่องไม่ปกติในสังคมของวัยรุ่น

เราไม่เคยคิดมาก่อนว่าวันนี้วันที่  บุหรี่ไฟฟ้ากลายเป็นเครื่องประดับในร่างกาย เพราะหลายคนอาจมองว่ามันเท่ บุหรี่ไฟฟ้าไม่ใช่เรื่องแค่คนอยากสูบหรือไม่อยากสูบ แต่มีเรื่องการตลาดเข้ามาเกี่ยวข้องและเป็นประตูที่จะนำไปสู่วงจรการเสพติดอื่น ๆ ที่แม้แต่ผู้ปกครองหรือครูเองก็ไม่รู้เท่าทัน เนื่องจากบุหรี่ไฟฟ้ามีการพัฒนารูปแบบต่าง ๆ ทำให้ครูไม่รู้ว่าสิ่งของที่นักเรียนพกมานั้นเป็นบุหรี่ไฟฟ้า หรือพ่อแม่อาจไม่ทราบว่าสิ่งที่อยู่ในกระเป๋าของลูกคือบุหรี่ไฟฟ้า ทุกวันนี้แม้แต่กลุ่มเยาวชนที่เป็นนักกีฬาฟุตบอลแทบทุกที่ พบว่า สูบบุหรี่ไฟฟ้า เนื่องจากโค้ชหรืออาจารย์ก็ไม่ได้ห้าม ทุกคนยังมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนไม่คิดว่าบุหรี่ไฟฟ้าอันตรายจึงอยากขอเรียกร้องไปยังรัฐบาลให้ยืนยันมาตรการแบนบุหรี่ไฟฟ้าต่อไป  เพราะบุหรี่ไฟฟ้าไม่มีความคุ้มค่าใด ๆ เลย เราต้องทำให้เรื่องนี้เป็นวาระแห่งชาติ เพราะวงจร สิ่งเสพติดทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นบุหรี่ แอลกอฮอล์ คือ สิ่งที่ทำให้เราต้องสูญเสียเงินไปมากมาย และยังเป็นสาเหตุที่นำมาสู่ความยากจนได้